Momentum Marketing คืออะไร
8 กลยุทธ์ โมเมนตัม Momentum Marketing
เพราะอะไรพวกเขาจึงยอมเข้าคิวนานหลายชั่วโมงเพื่อให้ได้สินค้านั้นมาครอบครอง …
“8 กลยุทธ์ โมเมนตัม Momentum Marketing
เจาะใจคนชอบแชร์
ประกอบไปด้วย …

“8 กลยุทธ์ โมเมนตัม Momentum Marketing
เจาะใจคนชอบแชร์
ประกอบไปด้วย …
➡️1. M-MOVEMENT คือ การทำให้สินค้าต้องมีการเคลื่อนไหว ต้องใหม่อยู่เสมอ แม้ว่าไม่ได้มีการออกสินค้า แต่จะต้องทำให้สินค้ามีการเปลี่ยนแปลงให้เป็นสิ่งใหม่
.
➡️2. O-OPINION LEADER คือ การหาคนที่จะนำความคิดคนอื่น และทำให้คนนั้นได้เกิดทดลองสินค้า เพื่อที่จะได้เกิดการบอกต่อ
.
➡️3. M – MAJOR CHANGE คือ สินค้าต้องพัฒนาหรือเปลี่ยนแปลง เพื่อให้เกิดแรงจูงใจคนใช้ให้แชร์ความคิดเห็นต่อสินค้านั้นๆ
.
➡️4. E-ENGAGEMENT คือ การสร้างความผูกพันกับผู้บริโภค โดยการสร้าง Brand Community หรือ กลุ่มคนที่ชื่นชอบแบรนด์นั้นๆ และต้องทำให้คนมีความจงรักภักดีต่อแบรนด์ (Loyalty) กับสินค้า เพื่อที่จะให้ผู้ที่ชื่นชอบแบรนด์เข้ามาอยู่ร่วมกัน เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน รวมถึงการเป็นกระบอกเสียงในการบอกต่อไปยังบุคคลอื่นๆ ด้วย
.
➡️5 ได้แก่ N-NEED คือ การทำให้สินค้าต้องเติมเต็มความต้องการของผู้บริโภค โดยเฉพาะเรื่อง Lifestyle
.
➡️6. T-TREND คือ การติดตามเทรนด์การเปลี่ยนแปลงของสังคม จะต้องทันกระแส จับกระแสให้ทันว่าเทรนด์อะไรที่กำลังมาและผู้บริโภคให้ความสนใจ
.
➡️7. U-UNIQUENESS คือ การพัฒนาสินค้าหรือบริการ เป็นสินค้าในรูปแบบลิมิเต็ดหรือมีจำนวนจำกัด มีความพิเศษของสินค้า เพื่อกระตุ้นความอยากได้ของผู้บริโภคให้เกิดขึ้น และ
.
➡️8. M-MONITOR คือ ต้องมอนิเตอร์ข้อมูลทั้งหมด เพื่อตรวจเช็กว่า เนื้อหาที่แบรนด์ได้สื่อสารออกไปถูกต้องครบถ้วนหรือไม่
.
#momentumMARMETING #FireflyBusinessGroup
➡️1. M-MOVEMENT คือ การทำให้สินค้าต้องมีการเคลื่อนไหว ต้องใหม่อยู่เสมอ แม้ว่าไม่ได้มีการออกสินค้า แต่จะต้องทำให้สินค้ามีการเปลี่ยนแปลงให้เป็นสิ่งใหม่
.
➡️2. O-OPINION LEADER คือ การหาคนที่จะนำความคิดคนอื่น และทำให้คนนั้นได้เกิดทดลองสินค้า เพื่อที่จะได้เกิดการบอกต่อ
.
➡️3. M – MAJOR CHANGE คือ สินค้าต้องพัฒนาหรือเปลี่ยนแปลง เพื่อให้เกิดแรงจูงใจคนใช้ให้แชร์ความคิดเห็นต่อสินค้านั้นๆ
.
➡️4. E-ENGAGEMENT คือ การสร้างความผูกพันกับผู้บริโภค โดยการสร้าง Brand Community หรือ กลุ่มคนที่ชื่นชอบแบรนด์นั้นๆ และต้องทำให้คนมีความจงรักภักดีต่อแบรนด์ (Loyalty) กับสินค้า เพื่อที่จะให้ผู้ที่ชื่นชอบแบรนด์เข้ามาอยู่ร่วมกัน เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน รวมถึงการเป็นกระบอกเสียงในการบอกต่อไปยังบุคคลอื่นๆ ด้วย
.
➡️5. N-NEED คือ การทำให้สินค้าต้องเติมเต็มความต้องการของผู้บริโภค โดยเฉพาะเรื่อง Lifestyle
.
➡️6. T-TREND คือ การติดตามเทรนด์การเปลี่ยนแปลงของสังคม จะต้องทันกระแส จับกระแสให้ทันว่าเทรนด์อะไรที่กำลังมาและผู้บริโภคให้ความสนใจ
.
➡️7. U-UNIQUENESS คือ การพัฒนาสินค้าหรือบริการ เป็นสินค้าในรูปแบบลิมิเต็ดหรือมีจำนวนจำกัด มีความพิเศษของสินค้า เพื่อกระตุ้นความอยากได้ของผู้บริโภคให้เกิดขึ้น และ
.
➡️8. M-MONITOR คือ ต้องมอนิเตอร์ข้อมูลทั้งหมด เพื่อตรวจเช็กว่า เนื้อหาที่แบรนด์ได้สื่อสารออกไปถูกต้องครบถ้วนหรือไม่
.
#momentumMARMETING #FireflyBusinessGroup